บางอย่างที่กลับมา และบางอย่างที่เปลี่ยนไป

งานใหม่ที่เข้ามา

บางครั้งสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิตก็แปลกประหลาดดีนะคะ จากสิ่งที่ไม่รู้เลยกลับกลายมาเป็นความชอบ ชอบมากและหลงใหล เหมือนตอนเริ่มต้นเมื่อ 4 ปีที่แล้วที่โอกาสนำเราไปเจอกับผ้า เริ่มจากผ้าก่อนเลยค่ะ ที่พอเห็นแล้วชอบ ชอบมากจนยอมลงมือไปเรียนเย็บผ้าเมื่อตอนที่ตัวเองอายุเริ่มเลข 4 แล้ว จากเริ่มเลือกผ้า 8 ชิ้นมาตัดเป็นบล๊อคสี่เหลี่ยมผืนผ้าเล็กๆขนาด 6×6 นิ้ว เย็บมือ เริ่มตัดผ้า เอาเข้ามาเย็บด้วยกันจนเป็นผ้าห่มควิล์ทผืนแรก จนมาเริ่มใช้จักรเย็บผ้าครั้งแรก เริ่มซื้อผ้าครั้งแรก และทำงานฝีมือมาเป็นร้อยๆชิ้นจนถึงทุกวันนี้

 

Love at first sight

 
เราไม่เคยเห็นผ้าที่ดีไซน์สวยมาก่อนจนกระทั่งได้มาเห็นผ้าของ Amy Butler มันสวยมาก เราไม่เคยเรียนรู้ว่าลายผ้าต้องมีดีไซเนอร์ และเราก็ไม่เคยรู้ว่าโลกของงานฝีมือมันใหญ่มาก จำได้ว่ามันสนุกมากในช่วงที่ต้องเรียนรู้การทำฝีมือด้วยตัวเอง อินเทอร์เน็ตเป็นสิ่งที่ช่วยเราอย่างมากในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จากเย็บอะไรเล็กๆก็พัฒนามาเย็บอะไรที่ใหญ่ขึ้น จนมาถึงช่วงมาช่า เค้าเป็นโปรเจ็คที่ยิ่งใหญ่มากที่สอนให้เราเริ่มรู้จักการ coordinate สีและลายผ้า มันเป็นการสร้างสรรของสมองที่ดีเลิศที่ช่วยสร้างความสามารถในการจับสีผ้าและลายผ้ามาจนถึงทุกวันนี้

My Masha

มาช่ามาและมาช่าก็ไป inspiration ใหม่ๆก็เข้ามา เข้ามาพร้อมกับผ้าที่กองสูงขึ้นเรื่อยๆ 555 ต้องเก็บใส่กล่องหลายกล่อง กล่องวางใต้โต๊ะตัดผ้า กล่องวางข้างๆข้างฝาสูงกว่าเอว กล่องวางใต้โต๊ะทำงาน กล่องแอบวางในห้องต่างๆเพราะกลัวสามีเห็นแล้วจะว่าซื้ออีกแล้วเหรอเนี่ย จำได้วันที่ย้ายกลับเมืองไทยพนักงานแพ๊คของถึงกับบ่นว่าเยอะจัง พี่ทำงานขายผ้ารึ

และแล้วก็มีช่วงเวลาที่หยุด ไม่เย็บอีกเลย ไม่คิดอยากจะเย็บแล้ว หันไปสนใจอย่างอื่น วาดรูปสารพัดที่จะวาดได้ เพนท์นู่นนี่สารพัด เกินกว่าหนึ่งปีที่ไม่เย็บเลย เราว่า…จักรคงจะเหงาน่าดูเลยช่วงนั้น 😊
 

Kaffee Fassett

  

Anna Maria Horner

  

Amy Butler

  

Flower Sugar

  

Amy Butler

 
แต่อะไรมาดลใจก็ไม่รู้ จากคนที่เคยบอกกับตัวเองและคนรอบข้างว่าจะไม่ทำเสื้อผ้าเป็นอันขาด กลับเปิดจักรเย็บอย่างเอาเป็นเอาตาย ตัดผ้าตลอดเวลา กับการใช้ผ้าที่เยอะมากเมื่อเทียบกับงานฝีมือสมัยก่อนที่แต่ละชิ้นใช้แค่นิดเดียว ผ้าสวยที่เรารักและหลงใหลมากถูกนำมาใช้ผลิตเพื่อให้คนที่รักผ้าสวยด้วยกันนำไปใช้ มันกลับกลายเป็นความสุขแบบที่ฟินสุดๆอีกหนึ่งรอบ 

แต่เราไม่เคยเย็บเสื้อมาก่อน เราทำแพทเทิร์นไม่เป็น แต่จากการเรียนรู้นอดีตมันกลับเป็นสิ่งที่ช่วยสอนเราทีละนิดๆให้เราทำเสื้ออกมาได้สำเร็จ ประสบการณ์ของการเรียนรู้ในอดีตที่ผ่านมามันช่วยทุกอย่างจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการจัดวางผ้า การจับสีผ้า การแต่งผ้า การตัดและการเย็บ มันเป็นสิ่งที่ทำให้ผลงานที่ออกมาสวยงาม สิ่งที่เปลี่ยนไปคือตอนนี้เราเย็บเสื้อให้ลูกค้าทำให้แต่ละคนมีความสุข สิ่งที่กลับมาคือเราได้กลับมาทำอะไรที่เรารัก(มาก)อีกรอบ ❤️

ขอบคุณในโอกาสดีๆที่เข้ามาในชีวิต และขอบคุณลูกค้าทุกคนที่สนับสนุนและเป็นกำลังใจค่ะ

The Sweetest Side of Me by Nida White

 

My New Fabric Collection

เราเรียกผ้าลายนี้ว่า Mine เพราะเป็น Self Portrait ของเรา

 

หายไปนาน กลับมารอบนี้ขอโชว์ผลงานออกแบบลายผ้าของเรา ส่วนใหญ่มาจากงานสีน้ำที่เราเพิ่งจะเริ่มวาดเมื่อไม่นานมานี้มาปรับให้พิมพ์ลงบนผ้าเพื่อเราจะได้ไปใช้ในงานเย็บของเราค่ะ

โทนสีหวาน

โทนสีหวาน

 

DSC_4044

Rose in Blue

 

DSC_4051

Cotton Candy in Purple

 

DSC_4046

Flure

 

DSC_4032

Cotton Candy in Pink

 

DSC_1411

Sweet Set under The Sweetest Side of Me Collection

 

DSC_1407

Lullaby

 

DSC_1391

Dream

 

DSC_4060

Imaginary

 

Poppy

Poppy

 

DSC_1386

Swirl

 

DSC_1380

Color Delight

 

DSC_4114

I Heart You Collection

 

DSC_4103

Butterfly in Black

 

DSC_4099

Spring Flower in White

 

DSC_4096

Spring Flower in Aqua

 

DSC_4085

Sweet Heart & Love Quote

 

DSC_4081

Sweet Heart

 

DSC_4078

Butterfly in Three Colorways

 

DSC_4076

Love Quote

 

DSC_4068

Vintage Blue Rose in Pink

 

DSC_4066

Vintage Blue Rose in Yellow

 

ผ้าตัวอย่างออกมาน่ารักมากเลยค่ะ ใครชอบลายไหนช่วยบอกเราหน่อยนะคะจะได้ขอเป็นไอเดียเอาไว้ไปสั่งพิมพ์ได้ค่ะ

 

 

nida-white-logo3

The Sweetest Side of Me by Nida White

I’m Back…

ขอโทษค่า หายไปนานแสนนาน (ตามความคิดเรา) ช่วงที่ผ่านมาเร่งรีบตัด เย็บ ประดิษฐ์น้องมาช่าตามคะขอของเพื่อนๆที่เข้ามาล้นหลามประกอบกับอาทิตย์หน้าก็ต้องกลับสิงคโปร์แล้ว ทุกอย่างเลยดูวุ่นๆ แต่ก็วุ่นจริงๆคะ แต่วันนี้หลังจากเย็บมาช่าตัวสุดท้ายของออเดอร์นี้หันหลังกลับไปดู โอ้โหมาช่าเต็มบ้านไปเลยคะ

 

มาช่า 16 ตัวโพสท่าให้ถ่ายรูป

 

แต่ที่เห็นนี้ยังไม่เสร็จนะคะ เหลือขั้นตอนติดกิ๊บดอกไม้ และทาบลัชออนอีกคะ ภายในวันสองวันนี้ต้องเสร็จ (อันนี้พยายามบอกตัวเอง) แต่เพื่อนๆว่าไหมคะมาช่าชุดนี้สีสันสดใสคละกันไปได้อย่างดี มีทั้งหวานและเปรี้ยว จรงิๆแล้วเราไม่จำเป็นต้องใช้ผ้าแค่ collection เดียวทำหลายๆตัว แต่ใช้ผ้าต่างดีไซเนอร์กันไปก็ออกมาสวยได้เหมือนกันใช่ไหมคะ

 

ตอนนี้กองทัพเราเลยมีตั้งหลายขนาด ตั้งแต่ จัมโบ้ ใหญ่ กลาง และเล็ก พอเอามาเรียงกัน(ไม่ใช่อย่างในรูปนะคะ) มันน่ารักจริงๆคะ และก็อีกอย่างเดี๋ยวนี้พัฒนาการการวาดหน้าของเราก็ดีขึ้นด้วย ไม่ได้วาดไม่เป็นเรื่องเหมือนตอนใหม่ๆที่เพิ่งเริ่มทำ

 

ตัวจิ๋วๆหลายอารมณ์

 

และก็อีกอย่างวันจันทร์ที่จะถึงนี้ เราน่ะตื่นเต้นมากเลยที่จะได้เจอเพื่อนๆก่อนเรากลับด้วย เราจะนัดเจอกันที่ Sewing Lovers’ Club ที่ The Mall 3 รามคำแหง มาเจอมาเรียนเย็บผ้ากัน เป็นครั้งแรกที่เราจะได้สอนเพื่อนใหม่ที่ยังไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อนเลย แต่ว่ารู้สึกสนิทสนมกันผ่านทางหน้า Facebook โลกออนไลน์นี่ก็สร้างเพื่อนใหม่ๆที่น่ารักให้เราได้อีกเยอะเลย งานนี้กะว่าจะให้น้องที่ทำงานไปด้วยไปเก็บภาพมาเยอะๆจะได้เอามาโชว์กันด้วยคะ

 

สถานที่จัดเรียนน่ารักมากเลยคะ

 

งานนี้ต้องขอบคุณเพื่อนหน่อยของเราที่ประสานงานให้เรากับทีม Janome และ Janome ก็ใจดีเป็นที่สุดเอื้อเฟื้อสถานที่ให้เราได้เจอกับเพื่อนๆกันด้วยนะคะ ที่ร้านเค้าน่ารักมากมาย เข้าไปแล้วรู้สึกว่าใช่เลยเป็นห้องเรียนที่น่าเรียนเป็นที่สุด

 

และแล้วด้วยความตื่นเต้นเราก็เริ่มจัดอุปกรณ์ให้เพื่อนๆแล้วด้วยคะ จริงๆแล้วจัดผ้าและลายผ้าที่เราคิดว่าน่าจะเหมาะกับแบบที่เราจะทำแล้ว พรุ่งนี้คงจะจัดได้เยอะกว่านี้อีก

 

โทนสีถูกใจคุณครู

 

ใครที่ไม่ได้ไปร่วมงานนี้ช่วยส่งกำลังใจให้ครูมือใหม่ และเพื่อนๆมือใหม่ที่จะจอยกับเราด้วยนะคะ ถ้าครั้งนี้สำเร็จได้สวยงาม คงได้มีรอบสองอีกครั้งตอนที่เรากลับมาเมืองไทยรอบหน้าแน่ๆคะ

 

แล้วจะโพสรูปให้ดูกันนะคะ

 

 

The Sweetest Side Of Me By Nida White

Double Hourglass… So Easy

Good Morning Friday

 

วันศุกร์อีกแร้ว เร็วจังเลย วันนี้ตื่นมาขอเขียนบล๊อคก่อนเลยดีกว่าคะ ไม่งั้นวันนี้คงอดอีกเพราะตารางค่อนข้างเต็มอีกแล้ว  วันนี้จะเขียนบล๊อควิธีการทำ Double Hourglass ให้เพื่อนๆนะคะ เพราะตอนนี้เรามีโปรเจคทำตัวนี้อยู่จะได้ทำด้วยกันไปพร้อมๆกันเลยคะ

 

ก่อนอื่นหากระดาษแข้งเอามาตัดขนาดให้ได้ 7.5×7.5 นิ้ว เสร็จแล้วก็ตัดให้เหมือนในรูปนะคะ

 

ตัดครึ่งแรกได้สามเหลี่ยมใหญ่สองชิ้น

 

ตัดทแยงอีมูมนึง ทีนี้ได้สี่ชิ้นเลย

 

เอาสามเหลี่ยมมาใช้อันเดียวนะคะที่เหลือเก็บไว้เผื่ออันแรกเสียได้มีอันที่ 2, 3, 4 เอามาใช้ได้อีก  เสร็จแล้วก็ไปตัดผ้าสองสี ความกว้าง 2 1/4 นิ้ว หรือ 2.25 นิ้ว ความยาวตามหน้าผ้า

 

เอาผ้าสองชิ้นมาเย็บติดกัน

 

เสร็จแล้วเอาแผ่นสามเหลี่ยมมาทาบและตัดชิ้นแรก

 

กลับหัวสามเหลี่ยม แล้วตัดผ้าชิ้นที่สอง

 

กลับหัวสามเหลี่ยมเป็นแนวตั้งอีกรอบและตัดผ้าอีกหนึ่งชิ้น หลังจากนั้นก็กลับหัวสามเหลี่ยมลงตัดผ้าอีกชิ้นนึง เพราะฉะนั้นเราจะมีสามเหลี่ยมฐานสีแดงสองชิ้น และสามเหลี่ยมฐานสีขาวสองชิ้น พอเอามาเรียงประกอบหันหน้าตาก็จะออกมาเป็นแบบนี้คะ

 

เกือบจะสวยแล้ว

 

เสร็จแล้วเย็บที่ละคู่นะคะ เย็บคู่เสร็จเอาทั้งสองคู่มาเย็บติดกัน

 

เรียบร้อยแล้ว น่ารักเนอะ

 

แล้วก็ทำหลายๆอันมาประกอบกันนะคะ

 

หรือทำหลายๆลายมาต่อกันก็ได้คะ

 

 

The Sweetest Side of Me By Nida White

Patchwork Continued… Let’s make pillow together

Rail Fence Pillow ทำเสร็จแล้วคะ

วันนี้มาต่อกันจากเมื่ออาทิตย์ที่แล้วกันนะคะ อาทิตย์ที่แล้วที่เราทำ patchwork แผ่นหน้าเสร็จแล้ว เราก็ต้องมาประกอบหมอนให้มันเสร็จๆใช่ไหมคะ มาเริ่มกันเลยคะ เราเอา patchwork กลับมาดูและรู้สึกว่ายังอยากเพิ่มรายละเอียดเพิ่มเข้าไปอีกหน่อย เราก็เลยเพิ่มขอบเหลืองรอบนอกของแผ่น patchwork ที่เราทำ เพราะลองวัดตัวหมอนแล้วยังมีที่เหลือพอให้เข้าขอบเหลืองได้

ตัดขอบผ้าสีเหลืองความกว้าง 2 นิ้ว ความยาวตามหน้าผ้า

กลัดเข็มหมุดขอบเหลืองเข้ากับตัว patchwork และเอาไปเย็บติดกัน

เย็บเสร็จแล้วตัดขอบผ้าให้เท่ากับ patchwork มุมแรก และกลัดผ้าขอบเข้ากับมุมต่อไปและเย็บให้ติกกัน ทำแบบนี้ให้ครบทั้งสี่มุมนะคะ แต่ตัดขอบให้ตรงและเรียบร้อย

เสร็จขั้นตอนการเพิ่มความสวยให้ patchwork ของเรา

แต่ถ้าเพื่อนๆ ไม่อยากเย็บขอบเพิ่มก็ได้นะคะ ก็ต้องวัดขนาดความกว้างของ patchwork ว่ามีขนาดเท่าไหร่จะได้ ไปตัดผ้าเพื่อประกอบหมอนชิ้นหน้าได้นะ เช่น patchwork ของเราตอนนี้วัดได้ 11.5 นิ้ว แต่เวลาเย็บต่อกับผ้าตัวหมอนแล้วก็จะเหลือแค่ 11 นิ้ว แต่หมอนของเราขนาด 16 นิ้ว หมายความว่าเราต้องตัดผ้าเพื่อประกอบชิ้นหน้าอีก 5 นิ้ว ซึ่งหมายถึงขอบด้านซ้ายต้องมีความกว้าง 2.5 นิ้ว ขวา 2.5 นิ้ว บน 2.5 นิ้ว และล่าง 2.5 นิ้ว หมอนเราก็จะได้ขนาด 16 x 16 นิ้วคะ

แต่ แต่ แต่ อย่าเพิ่งตัดนะคะ เพราะตามที่ว่ามาข้างบนยังไม่รวมชายผ้าที่ต้องเหลืออีกข้างละ 1/4 นิ้วเลย เพราะฉะนั้นเราต้องตัดผ้าที่ 3 นิ้วคะ เพราะเวลาเย็บเข้าแผ่น Patchwork แล้วผ้าก็จะเหลือ 2.75 นิ้ว เวลาเย็บประกบกับชิ้นหลังผ้าก็จะเหลือ 2.5 นิ้วตามที่ต้องการ

ตัดผ้าประกอบตัวหมอนชิ้นหน้า กว้าง 3 นิ้วตามความยาวของหน้าผ้า

แล้วเอามากลัดเข้ากับแผ่น patchwork และนำไปเย็บติดกัน

เย็บทั้งสี่มุมและตัดผ้าให้ขอบเท่ากัน

สวยไหมคะ

ชิ้นหน้าเสร็จแล้วออกมาสวยสมใจ

มาเริ่มทำชิ้นหลังกันคะ

ทีนี่บอกก่อนว่าเราไม่ได้ทำหมอนแบบใส่ซิปนะคะ เราะทำแบบที่เค้าเรียกว่า Envelope Pillow จะใช้ผ้าชิ้นหลังมาเกยกันคะ ตรงนี้ดีสำหรับคนที่มีลูกเล็ก หรือคนที่ชอบนอนหนุนหมอนและไม่ต้องกลัวว่าซิปจะมาขูดหน้า ตรงนี้นิยมกันมากในต่างประเทศสำหรับคนที่ชอบทำงานฝีมือ เพราะทำเสร็จได้เร็วกว่าแบบอื่นๆด้วยคะ วิธีทำก็คือตัดผ้าชิ้นหลังความกว้างเท่ากับชิ้นหน้า ซึ่งตรงนี้คือ 16 นิ้ว แต่ความยาวจะบวกเพิ่มไปอีก 4 นิ้ว ซึ่งก็คือ 20 นิ้ว พอตัด 16 x 20 นิ้วแล้วก็ตัดผ้าออกเป็นสองท่อนเลยคะ สองข้างให้เท่าๆกันกคือ 16 x 10 นิ้ว 2 ชิ้น

ตัดแบ่งครึ่งให้สองข้างเท่าๆกัน

เสร็จแล้วพับริมสองทบเล็กๆนะคะ เอาเตารีดรีดให้เรียบแล้วนำไปเย็บขอบให้สวยงาม

แล้วเอาผ้าชิ้นหน้าวาง หงายหน้าผ้าขึ้น เอาชิ้นหลังมาประกบแผ่นหลังขวาทาบบนแผ่นหลังซ้าย หรือแผ่นหลังซ้ายทาบบนแผ่นหลังขวาตามที่ถนัด

ทาบเสร็จแล้วใช้เข็มหมุดกลัดรอบๆสี่เหลี่ยมแล้วเริ่มเย็บนะคะ ให้เหลือชายผ้า 1/4 นิ้วด้วยนะคะ

แล้วก่อนที่จะพลิกปลอกหมอนด้านถูกออกมา เอากรรไกรตัดมุมทั้งสี่มุมออกเหมือนในรูปก่อนนะคะ จะทำให้มุมเมื่อพลิกกลับมาแล้วออกมาสวยงามคะ

เสร็จแล้วก็เอาตัวหมอนใส่ แล้วตบๆให้สวยงาม

ออกมาสวยอย่างที่อยากได้แล้วคะ

ลองทำดูนะคะ ทำหลายๆสีเรียงกันคงจะสวยน่าดูเลยคะ

The Sweetest Side of Me By Nida White

Sewing Class with Friends

ก๊วนเพื่อนโรงเรียนที่ยังรักกันเหนียวแน่น

 

เมื่อวานที่ผ่านมามีเพื่อนๆมารวมตัวกันที่บ้านสิบกว่าคน จุดประสงค์หลักเพื่อเรียนเย็บผ้า และแต่ละคนถืออาหารมาคนละไม้ละมือ มีทั้งอาหารที่ตั้งใจทำกันมาให้เพื่อนๆทานกันแล้วยังมีอาหารที่ขาดไม่ได้ที่เจ้าของบ้านไม่ได้ทานมานาน นั่นคือ ส้มตำ หมูน้ำตก คอหมูย่าง ฯลฯ จริงๆแล้วสรุปกันหลังจากที่เจอกันทีมกินมีมากกว่าทีมเย็บ ทีมกินนอกจากจะหม่ำอาหารกันตลอดเวลาแล้วยังเป็นทีมสนับสนุนทีมเย็บกันด้วยแบบว่าถ้าทีมเย็บทำอะไรสำเร็จขึ้นมาชิ้นนึงแล้วทีมสนับสนุนจะวิ่งมาเฮกัน และรุมถ่ายรูปกันอย่างสนุกสนาน

 

ครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกด้วยที่บ้านเราจัดการชุมนุม เพราะตั้งแต่ซื้อบ้านมาก่อนที่จะย้ายไปอยู่ต่างประเทศยังไม่มีโอกาสต้อนรับแขกๆที่บ้านมาก่อนเลย เจ้าบ้านเลยเกิดอาการประหม่าเล็กน้อยว่าบ้านจะโอเคเพื่อนต้อนรับแขกๆคนสำคัญหรือเปล่า แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี

 

เราเริ่มเย็บหมอนกันตั้งแต่มาถึง สรุปแล้วมีนักเรียนดีเด่นตั้งใจเรียนอยู่สี่คน จักรมีสองตัว เมื่อวาน Janome คะแนนนำโด่งเพราะ Bernina ไม่ยอมมาด้วย เจ้าของเปลี่ยนใจมากินมากกว่ามาเย็บ 😉

 

เมื่อวานมี 3 แบบที่เพื่อนสนใจอยากเรียน Wheel Pillow, Log Cabin Pillow, และ Rail Fence Pillow. เพื่อนที่ได้ทำหมอน Log Cabin บอกว่าแบบนี้ง่ายกว่าที่คิดไว้เยอะ จากคนที่ไม่เคยเย็บจักร ตัดผ้ามาก่อนใช้เวลาทำประมาณ 2-3 ชั่วโมงก็เสร็จ  Rail Fence ก็ไม่น้อยหน้า ออกตัวช้ากว่าคนอื่นแต่ก็ทำเสร็จได้พร้อมๆกัน ส่วน Wheel Pillow ซึ่งละเอียดกว่าและงานหลายขั้นตอนกว่าก็เสร็จช้ากว่าคนอื่นเพียงนิดเดียว

 

3 แบบ 4 ใบ

 

เพื่อนๆแต่ละคนตั้งใจกันมาก มีความมั่นใจมากกว่าเราในตอนแรกที่เริ่มหัดเย็บกว่าเรากันทุกคน เราปรับ speed จักรให้อยู่ต่ำหน่อยเพื่อให้แต่ละคนเย็บได้ช้าๆแต่ไม่พลาด งานออกมาเลยสวยทุกใบเลยคะ นอกจากนั้นเมื่อวานยังได้มีโอกาสสอนเพื่อนๆให้ใช้ rotary cutter ด้วย มีแต่คนชอบมากๆ เพราะทำให้งานตัดออกมาได้เร็วและไม่ผิดพลาด ตลกตรงที่เพื่อนคนนึงตั้งชื่อ rotary cutter ว่ามีดหั่นพิซซ่า (คิดได้ไงนิ)

 

ทีมเย็บที่ทำผลงงานออกมาได้สวยแจ่ม

 

ทั้งเย็บ ทั้งกิน ทั้งเมาท์อยู่กันไปกันมาตั้งแต่เที่ยงจนมึดค่ำเลยคะ นอกจากนั้นยังมีการมอบหมอนสำหรับคนที่เราเคยสัญญาว่าจะทำให้อีกด้วย ทำเหมือนเป็น event มอบของรางวัลอะไรอย่างนั้น สนุกดีคะ ถ่ายรูปกันซะหนำใจไปเลย นอกจากเพื่อนเป็ยผู้โชคดีที่ได้หมอนแล้วยังเป็นที่อิจฉาตาร้อนของคนที่ยังไม่ได้อีกด้วย เลยกลายเป็นงานแย่งหมอนกันไปอีกงาน

 

เจ้าของ Roxy Foxy คนใหม่แต่ถือมาช่ามาถ่ายรูป

 

เจ้าของมาช่าที่ใช้ผ้าของ Amy Bulter โดยเฉพาะ

 

พอใกล้ค่ำหลังจากที่เย็บเสร็จหายเหนื่อยกันเรียบร้อยแล้งก็ถึงเวลาถ่ายรูป ถ่ายกับถ่ายแบบ non stop แต่เราก็ได้รูปที่ถ้่ยกับนักเรียนดีเด่นมาอวดด้วยนะคะ

 

นักเรียนดีเด่นทั้งสี่คนรวมคุณครู

 

ท้ายสุดขาดไม่ได้ก็ต้องมีรูปหมู่ก่อนกลับอีกที

ก่อนกลับต้องรวมรูปหมู่

 

จบงานนี้แล้วเริ่มมั่นใจขึ้นมาหน่อยแล้วคะว่าน่าจะสอนเย็บได้ เดี๋ยวกำลังใจมามากกว่านี้จะเปิดคลาสเล็กๆสอนเพื่อนๆคนอื่นที่สนใจมาเย็บกับเราซักครั้งสองครั้งดีไหมคะ

 

 

The Sweetest Side of Me By Nida White

 

 

Easy Patchwork … Let’s Do It

Rail Fence

 

วันนี้มาทำ patchwork แบบง่ายๆกันดีกว่าคะ แบบนี้ชื่อภาษาอังกฤษเค้าเรียกว่า Rail Fence คะ ก่อนอื่นหาผ้าสีสวยๆมาซักสามสี หรือใครอยากทำสี่สีก็ได้นะคะ ได้แล้วก็ตัดขนาดความกว้างให้เท่าๆกัน ตามแบบของเรานี้เราใช้ผ้าสามสีเพราะเราอยากได้ปลอกหมอนใหม่ขนาด 16 นิ้ว ความกว้างของแต่ละสีของเราขนาด 2 นิ้ว ตัดตามความกว้างของหน้าผ้าเลยนะคะ

 

จัดลายสีว่าจะให้อันไหนอยู่ตรงไหน

 

เสร็จแล้วเย็บชิ้นที่ 1 และ 2 เข้าด้วยกันให้เหลือชายผ้า 1/4 นิ้ว

 

เสร็จแล้วคลี่ผ้าออกใช้นิ้วกรีดตามรอยตะเข็บ

 

แล้วเอาชิ้นที่ 3 มาเย็บติดกับชิ้นที่ 2

 

อย่าลืมเหลือชายผ้า 1/4 นิ้วด้วยนะคะ

 

คลี่ชิ้นที่ 3 ออกแล้วใช้นิ้วกรีดรอยตะเข็บ

 

จากนั้นก็วัดขนาดความกว้างของสามสี และตัดขอบที่ไม่เท่ากันออก

 

ใช้ rotary cutter ตัดฉึบทีเดียวเลยคะ

 

หลังจากนั้นก็ตัดเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส 4 ชิ้น ถ้าต้องการให้ใหญ่กว่านั้นก็ได้นะคะ ตัดเป็น 9 ชิ้นก็ได้

 

จัดลายตามที่ต้องการ และนำไปเย็บทีละสองชิ้น จะสองชิ้นบนก่อนและตามด้วยสองชิ้นล่าง หรือจะสองชิ้นขวาก่อนแล้วค่อยสองชิ้นซ้ายก็ได้

 

จากนั้นเอาสองคู่ที่เย็บแล้วมาประกบหน้าชนกัน กลัดด้วยเข็มกลัดและดูตะเข็บให้หันไปคนละทาง

 

เย็บจักรให้ทั้งสองคู่ติดกัน เสร็จแล้วพลิกดูว่าตะเข็บเรียบร้อยไปคนละทางสวยงามหรือเปล่า

 

กลับด้านหน้ามาก็จะได้ patchwork rail fence สวยงามคะ

 

หลังจากนั้นก็เอาไปประกอบชิ้นหมอนก็เรียบร้อยแล้วคะ หรือถ้าเพื่อนๆอยากดูภาคประกอบเป็นหมอนต่อก็ได้นะคะ แล้วเดี๋ยววันหยุดนี้เราจะขึ้นบล๊อคตอนต่อไปที่ประกอบเป็นหมอนให้อีกนะคะ อย่าลืมลองไปทำดู เราว่าถ้าใช้สีสดๆก็คงสวยไม่น้อยเลยล่ะคะ

 

 

The Sweetest Side of Me By Nida White

 

 

I’m home …. Happy Happy.

ถึงบ้านแล้วค่า

ในที่สุดก็กลับบ้านแล้ว รู้สึกดีจริงๆคะ หลังจากวุ่นหัวปันแพ๊กของ จัดบ้านที่นู่นให้เรียบร้อย ขนของแบบเยอะมาก 6 กระเป๋าใหญ่ สองในนั้นเป็นกระเป๋าใส่จักร Janome ตัวโปรด และอีกหนึ่งเป็นกระเป๋าใส่อุปกรณ์ซึ่งใบนั้นหนักตั้ง 28 กิโล 555 อะไรจะหนักขนาดนั้น แต่ก็ถึงบ้านอย่างเรียบร้อยเมื่อวันเสาร์เย็น

เมื่อวานวันอาทิตย์อดไม่ได้ตามนิสัยเดิมๆ ขอแวบออกไปร้านผ้านิ้ดนึง อยากรู้ว่าเค้ามีอะไรใหม่ๆมาบ้างหรือเปล่า เพราะเราชอบผ้าของญี่ปุ่นเหมือนกันคะ ลายเค้าจะน่ารัก หวานๆ จุ๋มจิ๋มดี เราชอบร้านที่ K Village เค้าชื่อ Fabric@Play มีของหลายๆอย่างขายด้วยนอกเหนือจากผ้า และก็นอกจากผ้าญี่ปุ่นแล้วก็มีผ้าไทยขายด้วยราคาไม่แพงและสวย น่ารักสุดๆตั้งหลายแบบ เมื่อวานก็เลยได้มาเพราะตั้งใจว่าจะกลับมาทำหมอนให้บ้านที่เมืองไทยด้วย ขอโชว์รูปให้ดูนิดนึงนะคะ

โทนแดง ชมพู

โทนฟ้า

Fat Quarter ลายน่ารักๆ

หลังจากได้ผ้าแล้ว อุปกรณ์ก็ต้องเริ่มติดตั้งใช่ไหมคะ ก็เลยแอบไปขนโต๊ะจาก office เอามาจัดมุมเย็บผ้าที่บ้านทันทีด้วยความเห่อ มุมเล็กมองออกไปเห็นสนามบ้านเราแบบที่อยากได้มานาน และก็พร้อมเย็บแล้วคะ

มุมเย็บผ้า

แต่ยังไม่ได้เริ่มเย็บเลยน่ะคะ เพราะวันนี้ต้องไปสยามพารากอน สัญญากับลูกว่าจะให้เค้าไปดูปลากับคุณตาคุณยาย และต้องไปทำงานที่นู่นนิดหน่อย แต่สิ่งที่ดีที่ได้ไปเพราะทำให้เราได้แวะไปร้านหนังสือ Kinokuniya ด้วย ที่ร้านนี้เราชอบมากเพราะจะมีหนังสือเกี่ยวกับเรื่องเย็บผ้าค่อนข้างเยอะกว่าที่อื่น เลยได้มาอีกสามสี่เล่ม และก็ยังมีอีกหลายเล่มที่อยากได้ แต่เอาไว้ก่อนล่ะกันคะ

อันนี้ที่ได้มาจากร้าน Kino วันนี้

หนังสือเกี่ยวกับเรื่องการเย็บผ้ามีเต็มไปหมดเลยคะ

เล่มนี้น่ารัก เห็นแล้วอยากเย็บผ้ากันเปื้อนหลายๆแบบมาขึ้นเว็บจัง

แฮะแฮะ โชว์ของเสร็จแล้ว สัญญาคะว่าพรุ่งนี่้จะเริ่มทำงานแล้วคะ แล้วจะเอามาโชว์ให้ดูนะคะ

The Sweetest Side of My By Nida White

Angry Bird or Angry Me?

20110622-030927.jpg

ตอนนี้ไปที่ไหนก็มีแต่ตุ๊กตา Angry Birds ขายเต็มไปหมด เมื่อเดือนกว่าๆไปห้าง Takashimaya เห็นวางโชว์แต่ขึ้นป้ายว่า sold out แต่ตอนนี้มีไปซะทุกที่เลย จากตอนแรกว่าจะไม่ซื้อแต่สุดท้ายก็อดไม่ได้ หวังว่าในอนาคตเราคงไม่ซื้อครบเซ็ทนะ

เมื่อเช้าเอารูป Angry Birds ขึ้น Facebook มีเพื่อนถามว่าจะลองเย็บหรือเปล่า เราก็เลยลองเสิร์ทหาดูในเว็บว่มิสกรีทำ pattern สอนเย็บเหล่านกน้อยนี้หรือเปล่า ปรากฎว่ามีหลายเว็บเลยคะ ใครสนใจลองเข้าไปดูที่นี่ได้นะคะ – Obsessivelystitching

เมื่อเช้าพอมีเวลาได้นั่งตัดผ้าสำหรับหมอน wheel pillow สองใบและนั่งเย็บหมอนมาช่าได้อีกหนึ่งใบ เลยตั้งใจว่าเมื่อไหร่เริ่มเย็บหมอน wheel pillow จะทำ tutorial วิธีการเย็บขึ้นบล็อคด้วยเผื่อเพื่อนๆคนไหนสนใจอยากทำได้เอาไปทำได้เลยคะ

วันนี้เป็นวันของลูกอีกแล้ว ออกจากบ้านมาตอนสายๆจนตอนนี้จะบ่ายสี่แล้วยังไม่เสร็จเลย เหนื่อยจิงๆ วันนี้พาลูกคนเล็กไปดูโรงเรียนใหม่ที่เค้าจะเริ่มไปเรียนตอนเดือนสิงหาด้วย ลูกท่าทางจะชอบโรงเรียนนี้เพราะของเล่นเยอะดี เรียกให้กลับเท่าไหร่ก็ไม่ยอมกลับ

20110622-060913.jpg

หลังจากนั้นก็พาไปหาหมอต่อ รอ ร้อ รอ เมื่อไหร่จะได้เจอหมอ รวมเวลานั่งรอทั้งสิ้นเกือบสองชั่วโมง ระหว่างนั่งรอไปใจก็คิดไปถึงผ้าที่เพิ่งได้มาใหม่เมื่อวาน (อีกแล้ว) ว่าจะทำอะไรดี ตอนนี้อยากกลับไปทำผ้าห่มสวยๆอีกผืน หลังจากหมอนรอบนี้ที่ยังค้างอยู่เสร็จเรียบร้อยแล้วจะกลับไปทำผ้าห่มอีกรอบ

20110622-062108.jpg

20110622-062133.jpg

แล้ววันนี้ของอีกอย่างที่สั่งไว้ก็มาด้วยคะ ใครชอบหมอนปักเข็มหมุดบ้าง เมื่อเดือนที่แล้วเข้าอินเทอร์เน็ตแล้วเห็นหมอนเข็มหมุดแบบนึงน่ารักมาก สะดุดตาจนต้องสั่ง pattern มาเป็นรูปชิ้นเค๊ก มีคนทำแล้วเอาไปตกแต่งเพิ่มให้มีวิปครีมสวยๆอยู่บนหน้าเค๊กเพิ่ม ยิ่งสวยยิ่งน่ารักเข้าไปกันใหญ่ แต่พอเปิดอ่านวิธีทำ อันนี้ต้งงขอเวลาทำความเข้าใจอีกหน่อย ถ้ามันไม่ยากมากจะแปลเป็นภาษาไทยให้เพื่อนๆมาทำด้วยกัน ดีใหมคะ

20110622-062739.jpg

20110622-062803.jpg

The Sweetest Side of Me By Nida White

The Shadow of The Hot Day

20110621-022126.jpg

ร้อน ร้อน ร้อน …. หน้าร้อนของจริง วันนี้ในห้องทำงานต้องเอาม่านลงแลเปิดแอร์แรงๆ เพราะวันนี้เป็นวันตัดผ้าอีกแล้ว เวลาตัดผ้าต้องยืนตลอดแล้วก็ก้มหลัง บิดตัวไปบิดตัวมา เมื่อยได้ใจเลยคะ เมื่อก่อนตอนทำธุรกิจเสื้อผ้าไม่เคยได้ลงมาทำเองมีแต่ลูกน้องแบ่งเป็นส่วนๆแผนกตัด แผนกเย็บ แผนกติดเครื่องประดับและจุกจิกอื่นๆ แผนกตัดจะเป็นแผนกเดียวที่หาคนมาทำได้ยากที่สุด… ตอนนี้เลยเข้าใจแล้วว่าเพราะอะไร

เวลาตัดผ้าแล้วใช้ cutter ที่คมมากๆตัดชึบเดียวขาดออกมาสวยเราจะชอบมากๆเลยคะ บางทีเกิดอาการขี้เหนียวไม่ยอมเปลี่ยนใบมีดใหม่อยู่เรื่อยๆ ทู้ซี้ใช้อันทื่อๆ โหบางทีผ้าเสียเลยคะ ตอนหลังต้องตัดใจถึงใบมีดจะแพงกว่าแต่เราไม่ต้องเสียผ้าอีก

 

20110621-023219.jpg

Rotary Cutter ที่ขายกันอยู่มีไม่กี่ยี่ห้อที่คนติดกันมาก ที่นิยมใช้กันก็มี Clover กับ Olfa อันแรกที่เราใช้ขนาด 60 mm ตอนแรกคิดว่ามีอันเดียวก็พอ แต่เอาเข้าจริงพอตัดอะไรที่เล็กๆไม่ง่ายอย่างที่คิดเลยคะ เลยต้องถอยขนาด 45 mm มาใช้อีกอัน อันนี้จะกลางๆหน่อย แต่ก็ถูกใจเราที่สุดนะคะ แต่พอสุดท้ายที่ต้องตัดอะไรที่จิ๋วกว่านั้นและโค้งมากๆอย่างเช่นหน้าของน้องมาช่ากลับตัดได้ยาก เลยสุดท้ายก็ต้องถอยขนาด 28 mm มาใช้อีกอันตอนนี้ตัดวงกลมได้กลมป๊อกเลยคะ ไปๆมาๆแทนที่จะมีอันเดียวเลยกลายเป็นสามอันไปซะแล้ว

 

20110621-024930.jpg

จากเรื่องอากาศร้อนเลยไปเรื่องตัดผ้าไม่เข้ากับรูปที่โพสต์ไปเลยใช่ไหมคะ 555 อย่างที่บอกไปเมื่อวานว่าเพิ่งได้ผ้าใหม่มา หนึ่งในนั้นคือผ้า home deco ของ Amy Bulter – Soul Blossom collection สีและลายสวยมากเลยคะอย่างที่เห็นในรูป เอามาถ่ายรูปกับแดดบ่ายตอน 5 โมงเย็น รูปออกมาสวยแจ่มเลย แต่กว่าจะได้เย็บได้ตัดผ้านี้คงเป็นหลังจากเดือนสิงหาไปแล้วเพราะเราคงไม่สามารถเอากลับไปเมืองไทยกะเราได้

จริงๆยังมีอีกที่มากับ Amy Bulter นี้นะคะเป็นผ้า laminated หรือผ้าที่เคลือบพลาสติกบนผ้า อันนี้เอาเย็บกระเป๋าหรือทำแผ่นรองจานได้ เราลองซื้อมาด้วยเหมือนกันอยากลองเอามาเย็บดูว่าออกมาแล้วของจริงจะเป็นยังไง อันนี้ต้องลองติดตามกันต่อไปนะคะ

 

20110621-025857.jpg

สุดท้ายให้ลองทายกันดูว่าบ่ายนี้เราอยู่ที่ไหน

20110621-030033.jpg

The Sweetest Side of Me By Nida White